Sunday, April 28, 2013

เดินทาง(คนเดียวกับลูก) K1-2013 แหม่มกับลูก Bangkok-Narita-Washington-Portland แหม่ม+หมูน้อย


Ra Da created a doc.

Friday, April 5, 2013

เดินทาง(คนเดียว) CR1-2013 นิ่ม


ประสบการณ์การเดินทางของ นิ่ม Thanaporn Boring สุวณณภูมิ(เดินทางคนเดียวโดยโคเรียนแอร์)-อินชอน-ซีแอตเทิล-แองกริข(เดินทางพร้อมสามีโดยอลาสก้แอร์ไลน์)-โนม-เทลเล่อร์(เบอร์ริ่งแอร์)

สวัสดีค่ะ นิ่มออกเดินทางวันที่ 5 เมษายน 2556 ด้วยสายการบินโคเรียนแอร์เครื่องออกเวลา 11.45 p.m. ออกจากบ้านหกโมงเย็น รถติดพอสมควรเพราะเป็นวันหยุดติดต่อกันสามวัน

ถึงสุวรรณภูมิประมาณทุ่มครึ่งได้ค่ะ มีพี่สาว น้องสาว และหลานชายมาส่ง เช็คอินที่เคาน์เตอร์ M (ได้ข้อมูลจากน้องแคท ขอบคุณมากค่ะ) รอเคาน์เตอร์เปิดประมาณสองทุ่ม ของนิ่มมีกระเป๋าโหลดใต้เครื่องสองใบสีเทากับสีดำ ส่วนขึ้นเครื่องมีเป้กับกระเป๋าสะพายใบแล็ก ปรากฎว่ากระเป๋าสีเทานำ้หนักเกิน(โคเรียนแอร์ให้ใบละ 23 กิโล 2 ใบ) เกินไปเกือบ4กิโล ตอนแรกนิ่มจะยอมเสียค่าปรับร้อยเหรียญ แต่เจ้าหน้าที่ดีมากไม่อยากให้เสียเงินก็บอกให้เอาออกเถอะกล่อมเราอีก สรุปต้องง่วนเอาของออก ก็ไม่รู้จะเอาะอะไรออกดีของกินทั้งนั้น แต่ก็ต้องตัดใจเอาออกเป็น พวกเครื่องปรุงอาหาร น้้ำพริกกระป๋องตัวหนักครึ่งโหลให้พี่สาวน้องสาวเอากลับบ้านไป พอเรียบร้อยแล้วได้ตั๋วพร้อมบัตรขาออก ก็ไปทานข้าวถ่ายรูป รำ่ลาพี่ๆน้องๆหลานเสร็จแล้ว

ประมาณสามทุ่มก็ขึ้นชั้นบนในส่วนของผู้โดยสารต่่างประเทศ เพื่อเช็คพลาสปอร์ต ตั๋วเดินทาง บัตรขาออกที่กรอกเรียบร้อยแล้ว ตรงนี้จะเร็วมากค่ะเพราะเป็นช่องสำหรับผู้ที่ถือพลาสปอร์ตไทย ผ่านเข้าไปจนถึงในส่วนเช็คกระเป๋าสำหรับขึ้นเครื่อง เช็คตัว เรียบร้อยก็รอเวลาขึ้นเครื่อง สายการบินนี้ดีมากค่ะตรงเวลา เผลอๆก่อนเวลด้วยทั้งตอนต้นทางและปลายทาง การบริการสมกับที่หลายคนบอกค่ะดีมาก ของกินมีให้ตลอด ประทับใจมาก

นิ่มถึงสนามบินอินชอนประมาณ เจ็ดโมงเช้า ก็ตรงดิ่งไปหาเคาน์เตอร์ของ Hana tour เพื่อออกไปทัวร์ข้างนอกสนามบินค่ะ (มีเพื่อนๆกังวลกับข่าวของสองเกาหลี ตอนแรกนิ่มก็กังวลค่ะ แต่คิดว่าถ้าโดนไม่ใช่เราคนเดียวคนเขาทั้งประเทศ และที่ได้สัมผัสมากลับมีความรู้สักว่าข่าวภายนอทำให้กังวลเกินไปจริงๆ ตอนที่อยู่เกาหลีลืมไปด้วยซ้ำว่าเขามีปัญหากัน เพราะทุกคนใช้ชีวิตตามปกติ กิน เที่ยวทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่ได้สนใจกับข่าวเลยค่ะ) ได้รับการแนะนำจากสมาชิกจากบ้าน Thai life in the USA นิ่มรอต่อเครื่อง 11 ชั่วโมง ถ้าอยู่แต่ในสนามบินกลัวจะปวดหัวมากขึ้นเพราะระหว่างทางที่บินจากสุวรรณภูมิถึงอินชอนปวดหัวไปตลอดทาง เดินหาทัวร์นี้เป็นชั่วโมงค่ะกว่าจะเจอแทบจะถอดใจแล้ว ถามไปตลอดเจ้าหน้าที่แต่ละคนก็บอกมิ่วตลอด แต่ตั้งใจแล้วว่าต้องเที่ยวเกาหลีให้ได้ซักนิดก็ยังดีไหนๆมาถึงที่แล้ว ในที่สุดก็หาเจอ เย้เย้ ทัวร์นี้อยู่ตรง Gate B Desk N.41 Arrival Hall 1F เว็บไซต์www.hanatourintl.com เผื่อสาวๆท่านไหนไปต่อเครื่องที่อินชอนแล้วรอนานแบบนิ่ม จะได้เป็นข้อมูลค่ะ นิ่มเลือกโปรแกรม Best of Seoul เสียค่าธรรมเนียม
$50 รวมอาหารกลางวัน บัตรเข้าชมพาเลสแล้ว ไปทั้งหมดสี่แห่งค่ะ
ใช้เวลาตั้งแต่ 9.30-15.00 ซึ่งนิ่มต้องมาต่อเครื่องไปซีแอตเทิล
ประมาณ ห้าโมงสิบห้า มีเหลือเวลาได้พักอีกค่ะ ซึ่งที่เกาหลีช่วงที่นิ่มไปอากาศหนาวมาก ยิ่งฝนตกยิ่งเพิ่มความหนาว
แต่รู้สึกสดชื่นมากค่ะ ที่ปวดๆหัวหายเลย

ใช้เวลาเดินทางจากอินชอนถึงซีแอตเทิลประมาณเก้าชั่วโมง ถึงสนามบินซีแอตเทิลประมาณเกือบบ่ายโมงของวันที่ 6 เมษายน
พอถึงก็ตรงเข้าช่อง visitor (ขอบคุณพี่แจ๋วมากค่ะที่บอกนิ่มไว้) ใช้เวลากับ
ตม.ตรงนี้ประมาณ 10 นาทีค่ะ เจ้าหน้าที่ทักทายและถามแค่ว่าแต่งงานนานแค่ไหน จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่
นำซองสีน้ำตาล พานิ่มไปรอเข้าคิวตรง ออฟฟิศของตม. ตรงนี้นิ่มรอนานมากเกือบ 2 ชั่วโมง นิ่มไ้ด้คิวประมาณคนที่สี่ เคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่มีสองที่ แต่กลับมีเจ้าหน้าที่คนเดียว
คนแรกถึงคนที่สามผ่านไปไม่มีปัญหา พอถึงนิ่มเอาอีกแล้ว มีอุปสรรค ให้ลุ้นตลอด นิ่มจะต้องต่อเครื่องไปแองกริช ตอน ห้าโมงสี่สิบห้า และต้องไปเอากระเป๋าที่โหลดใต้เครื่องทั้งสองใบอีก รอนานจนเจ้าหน้าที่
สายการบินอลาสก้าแอร์ไลน์มาตามหา และบอกว่าถ้าพิมพ์ลายนิ้มมือเสร็จแล้วให้ไปขึ้นเครื่องตรงไหน (บอกไปเถอะคงรู้หรอก ก็ฟังๆพยักหน้าไปงั้นๆ) สาเหตุที่นิ่มรอคิวนานเพราะ มีคิวแทรกเป็นคนตาคุณยาย คุณลุงคุณป้าที่นั่งวิลแชร์ค่ะ ตอนแรกก็แค่ 4-5 คัน หันไปรอบสอบ เพิ่มมาอีกเป็น 10 คันได้
เอาแล้วเริ่มนั่งไม่ติด ลุ้นซิค่ะ คิดในใจไม่แน่เจ้าหน้าที่อาจเรียกเราแทรก
แต่เปล่าเลยค่ะรอต่อไป หันไปอีกทีอยากจะร้องให้ ☹ ฮ่าๆๆ หันไปอีกรอบโอ้โห วิลแชร์เกือบ 20 คันเป็นแถวยาว ดีวาบางครอบครัวรวบสองคัน คนที่นั่งรอด้วยกันบอกให้บอกเจ้าหน้าที่ไปว่าต้องต่อเครื่องอีก
ก็บอกเขาไม่เป็นไร ขอลุ้นเวลาดูก่อน มีครอบครัวที่มารอคิวใหม่ข้างๆมีเด็ก
อยู่ด้วยร้องงอแง ยังคิดอยู่สงสัยเจ้าหน้าที่คงให้เด็กก่อนด้วยแน่เลย
สรุปเจ้าหน้าที่เรียกวิลแชร์จนหมด แล้วถึงคิวนิ่มค่ะ ไม่ได้เรียกคิวเด็กแทรก่อน สอบถามไปอยู่ที่ไหนกับใคร พอรู้ว่าไปอลาสก้าร้องโอ้เลยหนาวมาก พิมพ์นิ้วชี้สองข้างเซ็นชื่อ
ก็อธิบายว่าหมดกรีนการ์ดสองปี แล้วต้องทำกรีนการ์ดสิบปีเมื่อไรยังไง
โดยแปะแผ่นกระดาษที่อธิบายแผ่นเล็กๆในเล่มพลาสปอร์ตค่ะ แล้วบอกขอให้มีความสุขกับอากาศหนาว นิ่มเสร็จจากตรงนี้ประมาณสามโมงเย็น เฮ้อยังทัน เล่นเอาคนเงียบเหงาหมดแล้ว ดีว่าเจ้าหน้าที่ยกกระเป๋าใส่รถเข็นไว้ให้ก็เรียบร้แย รีบเข็นรถ้ไปให้เจ้าหน้าที่ตมขาออกตรวจ แต่เจ้าหน้าที่ไล่ให้รีบไปบอกไม่ตรวจ และขอให้มีความสุขในอเมริกา
ยังนึกอยู่ว่าทำไม่เจ้าหน้าที่ใจดี จังแต่หารู้ไม่อิอิ จัดเต็มตรวจเราไปเรียบร้อยแล้วใส่ใบไว้ให้ด้วยในกระเป๋าสีเทา(กรณีว่าน้ำยาแช่เลนส์หายไปบางส่วนค่ะคงถูกโยนทิ้ง) คราวต้องถามเอาแล้วค่ะเพราะเขาไปกันเกือบหมดแล้ว ดีมีเจ้าหน้าที่คนนึงบอกได้ระเอียดมากว่าต้องนั่งรถไฟไป คงคอยให้บริการข้อมูลตรงรถไฟ เพราะมีการสอบถามขอคะแนนด้วยค่ะ
ว่าหารถไฟยากไหม นิ่มให้ไปคะแนนกลางๆ

จากซีแอตเทิลถึงแองกริชใช้เวลาประมาณห้าชั่วโมงค่ะ ถึงเวลาประมาณเกือบ 2 ทุุ่ม สามีมานั่งรอรับหน่าแป้นอยู่ค่ะ พาไปเอากระเป๋าแล้วออกไปพักโรงแรมใกล้สนามบินสองคืน เพื่อซื้ออาหารของใช้แล้วค่อยเดินทางต่อ พอออกมาข้างนอกหิมะ มากมาย หนาวเหมือนอยู่ห้องเย็น ที่สำคัญยังสว่างจ้าเหมือนเวลาสามหรือสี่โมงเย็นบ้านเรา

วันที่ 8 เมษายน เดินทางจากแองกริชไปโนม เวลาประมาณสิบโมงกว่าเครื่องบินออกค่ะ ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงถึงแล้วก็ไปขนกระเป๋าแล้วไป ซื้อตั๋วเครื่องบินเล็กเดินทางต่อไปเทลเลอร์ ก่อนเครื่องบินออก
ก็ไปหาซื้ออาหารมาตุนไว้เพิ่มค่ะ เครื่องบินเล็กเป็นแบบ 9 ที่นั่ง ตื่นเต้นมากมองลงมามีแต่หิมะปกคลุมไปหมด แยกไม่ออกว่าพื้นดินหรือพื้น้ำ ถึงเทลเลอร์ประมาณ สี่โมงครึ่ง
ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง และได้รับการต้อนรับจากครอบครัวครู เด็กนักเรียน ดีมากๆ อบอุ่นท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ
ปล เจอตรวจกระเป๋าสีเทาใบเดิม พร้อมใบยัดใส่ไว้อีกรอบแล้ว ค่ะที่สนามบินแองกริช

นี่ล่ะคะประสบการณ์การเดินทางของนิ่มสู่ดินแดนแห่งความหนาวเย็น อลาสก้า!!
ขอบคุณทุกๆคนมากนะคะสำหรับกำลังใจที่มีให้กันตลอดมา

ต้องขออภัยแอดมินนะคะนิ่ม create doc ไม่ได้น่ะค่ะ

Sunday, February 24, 2013

มีใครรู้เรื่องการขอสูติบัตรและพาสปอร์ตอเมริกาให้ลูกที่เกิดในไทยไหมค่ะ


มีใครรู้เรื่องการขอสูติบัตรและพาสปอร์ตอเมริกาให้ลูกที่เกิดในไทยไหมค่ะ..วีธีการกรอกแบบฟอร์มการขอสูติบัตรกับพาสปอร์ตอเมริกาให้ลูกด้วยคะ่..แบบฝนเครียสสสส..ล่้วงหน้านะคะ่ ...อยากทำให้เสร็จก่อนนะค่ะ...อีก 4 เดือนจะคลอดนะคะ่ ..กลัวว่าหลังคลอดจะทำอะไร ไม่สะดวกนะคะ่ ..รบกวนด้วยนะค่ะ ....
Like ·  ·  · November 6, 2011 at 10:59pm nearBangkok, Krung Thep
  • Aurawan Promsena สู้ๆนะค่ะพี่ฝน วรรณไม่รู้เรื่องขอสูติบัตรและพาสปอร์ตเลย ยังไงรอพี่ๆเพื่อนๆมาตอบนะค่ะ
  • Ploy M. Hardgrove ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าจะให้ฝ่าย US citizen ไปขอได้ที่สถานฑูตอเมริกาอ่ะค่ะ
  • Dao K. Riley ต้องอุ้มลูกไปเลยค่ะ และก่อนไปโทรนัดก่อนด้วยนะคะ. อ่อให้คุณพ่อน้องไปทำนะคะ
  • Dao K. Riley แล้วก็ต้องถ่ายรูปน้องไปทำพาสด้วยนะ 2*2 นิ้ว 2 ใบ
  • Dao K. Riley ค่าfee จำไม่ค่อยได้ค่ะเด่วถามคุนสามีให้ค่ะ จะประมาณ 4 พันรึป่าวไม่แน่ใจค่ะ
  • Dao K. Riley โทรนัดก่อนแล้วเช็คเอกสารที่ต้องใช้ได้ค่ะ
  • Dao K. Riley เอกสารของคุณแม่ และใบกิดลูก
  • Saowaluck Siripun ขอบคุณค่ะ..ฝนอยากทราบวิธีการกรอกแบบฟอร์มต่าง ๆ นะค่ะ..ฝนลองโทรไปแล้ว แต่เค้าปิดทำการแล้ว เดี๊ยวฝนจะโทรใหม่ค่ะ...ตอนนี้ฝนลิ้งฟอร์มที่จะเขียนคำร้องออกมาแล้วค่ะ แต่คำถามบางคำถามเป็นภาษาอังกฤษค่ะ..ฝนงง ค่ะ ไม่รู้ถามข้อมูลเราหรือลูกค่ะ ....อยากทำให้เสร็จค่ะ จะได้มีแรงเบ่งลูก ฮ่า ฮ่า ..
  • Dao K. Riley ของลูกค่ะ
  • Dao K. Riley เพราะดาวทำมาแล้วค่ะ
  • Dao K. Riley เรื่องท่ีเกิดของแม่ใช่ป่ะคะ ถ้าจำไม่ผิด
  • Dao K. Riley เพราะกรอกผิดมาแล้วเลยจำได้. อิอิ
  • Saowaluck Siripun คำถามบางข้อ..ออกจะสับสนค่ะ..งง ถ้าเรากรอกผิดเนี่ย เค้าจะบอกให้เราแก้ไหมค่ะ..เนี่ย
  • Dao K. Riley คะเค้าจะถามและให้เราแก้ไขค่ะ
  • Dao K. Riley แต่ต้องกรอกใหม่หมด
  • Dao K. Riley คุณพ่อน้องมาเม่ือไหร่ค่อยทำก็ได้ค่ะ
  • Dao K. Riley ไม่ยากหรอกค่ะ:)
  • Dao K. Riley เค้าจะดูว่าเป็นพ่อลูกกันจิงมั้ยอะไรทำนองเนียะค่ะ
  • Dao K. Riley ตอนดาวไปทำแฟนแอบนึกโมโหอยู่ แต่ไม่ได้อะไร
  • Nuntiya Nakasone สวัสดีค่ะ พอดีแนนพึงไปขอให้ลูกมาน่าจะคล้ายๆกันค่ะ 
    ขอสูติบัตร ไม่ยากค่ะ แต่ตอนคลอดแฟนไม่ได้มา สิ่งที่ต้องเตรียมก็
    1. ใบรับรองการเกิดจากโรงพยาบาล
    2.สำเนา passport แฟนค่ะ
  • Nuntiya Nakasone 3.บัตรประชาชน
    4.ทะเบียนบ้าน 
    แต่แฟนไม่ได้มา อำเภอให้แนนรับรองpassport ของแฟนค่ะ แต่ไม่แน่ใจนะคะว่าแต่ละที่จะง่ายแบบนี้รึป่าว
  • Natty John ฝน....ได้ตัวช่วยแล้วนะคะ ดาว...(คุณแนน) ช่วยหน่อยค่ะ
  • Nuntiya Nakasone ส่วนขั้นตอนการขอ passport ให้ลูก ต้องนัดก่อนค่ะ. สามีแนนนัดonline. พอถึงวันก็เตรียมเอกสารตามนี้เลยค่ะ
    1.สูติบัตรลูก ตัวจริง+แปลของแนนไปรับรองแปลที่กงศุล
    2.passport ตัวเอง+สามี(ตัวจริงเท่านั้นค่ะ ถ้ามีเล่มเก่าทีเคยออกนอกประเทศให้เอาไปด้วยนะค่ะ แนนเจอ มา
    แล้วต้องให้แม่ส่ง EMS มาให้เสียเวลาไปอีกรอบ)
    3. ทะเบียนสมรสค่ะ ทีเป็นกรอบสวยๆตัวจริง+แปล
    Copyเอกสารไปด้วยทุกอย่างค่ะ 
    จากนั้นก้สำภาษค่ะ คำถามไม่ยากค่ะ
    เจอกันได้ยังไง รู้จักกันมากี่ปี แฟนมาไทยกี่ครั้ง เราทำอะไรอยู่ตอนนี้ ติดต่อกันยังไง แนนไม่ไดัมีอะไรไปยืนยันความสำพันธ์ค่ะ เพราะแนนบอกว่าส่วนใหญ่ติต่อกันทาง skype. ช่วงปีหลังinter หน่อยใช้whatsapp กับ facetime. Madam ก็อึ้งไปซัพัก แล้วก็บอกเราว่า ok approve will send passport in the next 2-3 week eiei. เห็นไหมค่ะไม่ยากเลย ไม่ต้องกังวลมากนะคะเดี๋ยวเด็กจะไมแข็งแรง มีเอกสารตัวไหนขนไปให้หมดค่ะ เดี๋ยวmadamใจดีก็คืนให้ค้า
  • Natty John ดาว...เอาข้อมูลฝากเพื่อนๆ หน่อยค่ะ 
    ขอบคุณคุณแนนมากๆ ค่ะ
  • Nuntiya Nakasone แนนลืมไปค่ะ เรื่องรูปถ่าย ถ้าน้องยังเล็กถ่ายรูปไม่สะดวก แนนใช้วีธีนี้ค่ะถ่ายเล่นที่บ้านตอนที่เค้าเผลอๆ แบบที่ว่าจ้องเราหน้าตรอๆนะคะ แล้วเอารูปไปให้ทีร้านทำ photoshop. ให้ค่ะ บอกว่าขนาด 2*2 พื้นหลังขาว แค่นี้ก็ใช้ได้ค่ะ
  • Saowaluck Siripun ขอบคุณค่ะพี่แนท คุณดาว คุณแนนค่ะ แล้วเอกสารที่ต้องกรอกละค่ะ ..พอจะมีตัวอย่างการกรอกแบบฟอร์มไหมค่ะ..ถ้าสามีมาไม่ได้ เราต้องกรอก DS11 ที่เหลือสามีกรอกแล้วโนตอรี่ มาใช่ไหมค่ะ